ที่ประชุมคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีมติรับทราบการชะลอโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือส่วนทดแทนตอน N1 (ทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ออกไปก่อน แม้โครงการจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) สูงถึง 19.20% แต่พบว่า ตัวเลขผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ติดลบ เนื่องจากต้องก่อสร้างเป็นอุโมงค์ เพื่อลดผลกระทบตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้มีค่าก่อสร้างสูงมาก
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า จากการพิจารณาเห็นว่า หากตัวเลขผลตอบแทนทางการเงินติดลบก็ควรชะลอโครงการไปก่อน ยกเว้นกรณีสามารถปรับรูปแบบการก่อสร้างจากอุโมงค์เป็นทางด่วนยกระดับได้ อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้งเนื่องจากค่าก่อสร้างโครงการจะถูกลง ทำให้มีผลตอบแทนทางการเงินมากขึ้น
สำหรับผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ หรือ ทางด่วนทดแทน N1 หรือ ทางด่วนช่วง “เกษตร-งามวงศ์วาน” มีจุดเริ่มต้นบริเวณจุดตัดระหว่างทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน และสิ้นสุดที่ถนนประเสริฐมนูกิจ โดยเชื่อมต่อกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 บริเวณแยกสุคนธสวัสดิ์ ระยะทางรวม 10.55 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 49,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 44,532 ล้านบาทค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,619 ล้านบาทค่าควบคุมงานก่อสร้าง 1,069 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2567 กทพ.คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติ 2 โครงการได้ตามแผน คือ โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือในระยะที่ 1 (ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) หรือตอน N2 เดิม ระยะทาง11.3 กม. มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท และโครงการทางด่วนสายกะทู้-ป่าตองจ.ภูเก็ต หรือโครงการอุโมงค์ป่าตอง ระยะทาง 3.98กม. วงเงินโครงการประมาณ 16,190 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 67)
Tags: กทพ., ทางด่วน, สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข