“ชวน”กรีด”ทักษิณ”ไม่สำนึก ป่วนบ้านเมือง เชื่อ 2 ปมร้อน”เขากระโดง-อัลไพน์”ขยิบตาต่างคนต่างอยู่

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่มีการมองว่าการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนคนเดียวที่จะทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนว่า ก็ต้องยอมรับว่าเราต้องถามรัฐบาลที่มีอำนาจในการจัดการ ทำอะไรให้ถูกต้องตรงไปตรงมาโดยไม่มีข้อยกเว้น ทำไมไม่ทำ ทำไมปล่อยให้คนที่ทำให้เสียหายต่อส่วนร่วมลอยนวลอยู่ได้ความจริงกรณีของนายทักษิณต้องถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่จะมีสักกี่คนที่ได้ลดโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี มีใครบ้างต้องเอ่ยมา เราไม่เคยได้ยินเลย ฉะนั้นเมื่อได้รับสิ่งนี้แล้วน่าจะสนองตอบพระมหากรุณาธิคุณโดยปฏิบัติไปตามที่ได้รับพระราชทานมาอย่างเคร่งครัด เมื่อได้รับลดโทษเหลือ 1 ปี ก็ต้องติดคุก 1 ปี ไม่ใช่หาทางเลี่ยงออกไปอย่างนี้ แต่ต้องไปดูที่องค์กรทั้งหลายที่ทำให้คำวินิจฉัยนั้นปฏิบัติได้หรือไม่ นายทักษิณเป็นส่วนประกอบตัวเสริมสนับสนุน แต่องค์กรคือผู้ปฏิบัติ

เมื่อถามว่าจะคาดหวังได้อย่างไรในเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ และยังคงออกมายืนยันว่าจำเป็นต้องใช้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษา นายชวน กล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องของเขา แต่หน้าที่ของรัฐบาลต้องยึดหลักที่ถูกต้องโดยไม่มีข้อแม้ต้องซื่อสัตย์ สมมุติว่าตัวบุคคลไม่ใช่นายทักษิณก็ต้องเอาหลักนี้ ถูกก็ถูก ผิดก็ผิด ไม่ใช่เป็นการเหลื่อมล้ำหรือยกเว้น กับคนนี้ไม่ต้องปฏิบัติ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการละเมิดหลักความถูกต้องชอบธรรม ก็เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปทั้งประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รัฐบาลจะไปประมาทด้วยเชื่อว่าเขาสามารถคุมได้หมด ก็ต้องระวัง

เมื่อถามถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีที่ดินเขากระโดง กับสนามกอล์ฟอัลไพน์ จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าต่างคนต่างอยู่ ซึ่งกรณีนี้พรรคประชาชาติก็เคยอภิปรายเรื่องเขากระโดงไว้หนัก โดยเฉพาะพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม วันนี้ปัญหาคือต่างคนต่างอยู่ไม่นำมาพูดกัน

ต่อข้อถามว่าการชุมนุมกลุ่มของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่พุ่งเป้าประเด็น MOU 44เสี่ยงทำให้เสียดินแดนทางทะเล จะเป็นเงื่อนไขที่จะกระทบกับรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน นายชวนกล่าวว่า มีการโต้ตอบอยู่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในสมัยที่รัฐบาลตนพ้นมาแล้ว แต่ก็ติดตามว่าทำไมสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอาเข้าครม.แล้วยกเลิก มันต้องมีเหตุผลว่าที่ทำไปมันไม่ดีอย่างไร ซึ่งนายอภิสิทธิ์อธิบายให้ตนฟังว่า ข้อตกลงนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศในสมัยนั้นไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเป็นความต้องการของฝ่ายการเมืองก็ต้องทำ เขาคงรู้แล้วว่าที่ไปทำไว้มีอะไรที่เป็นจุดอ่อนจุดแข็ง ที่ทำให้เสียเปรียบ แต่ข้อตกลงนี้มีข้อหนึ่งระบุไว้ว่า หากจะหาผลประโยชน์ร่วมกัน จะต้องทำให้ข้อตกลงเรื่องเขตแดนจบก่อน

“ซึ่งนายอภิสิทธิ์ยังเล่าอีกว่าเคยสอบถามข้าราชการขณะนั้น ว่าปัญหาคือรมว.ต่างประเทศทำไปเพราะเกรงใจนายทักษิณหรือไม่ ปัญหาคือความสัมพันธ์ส่วนตัวถึงขั้นมาขอให้ยอม มันเป็นข้อเท็จจริง และคงมีข้อยุติในวันใดวันหนึ่ง คนที่รู้ก็จะต้องเปิดเผยในวันหนึ่ง” นายชวน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ธ.ค. 67)

Tags: , , ,