นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยเฉพาะกรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร, กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับกลไกในการปรับปรุงโครงสร้างภาษี และแนวนโยบายในการขยายฐานภาษี เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้รัฐ
ส่วนภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2567 นั้น ยอมรับว่าขณะนี้ชะลอตัวเล็กน้อย แต่ไม่ได้อยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วงมากนัก และเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว จะกลับมาอยู่ตามกรอบเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน
“ต้องยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ขณะนี้ อาจชะลอตัวเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งการออกมาตรการใด ๆ ก็อยู่บนพื้นฐานต้นทุนการจัดเก็บรายได้ที่ต้องลดลง ทั้งเรื่องพลังงาน และเรื่องต่าง ๆ เป็นการสูญเสียรายได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ต้องไปดูในรายละเอียด และพูดคุยกับส่วนงานว่ามีแนวทางที่จะนำเสนออย่างไรบ้างในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับรัฐ โดยอาจจะวางเป็น KPI ให้กับส่วนงานว่าเมื่อครบปี จะได้เห็นตัวเลขอยู่ในกรอบที่ได้รับมอบหมาย” นายจุลพันธ์ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า ในปัจจุบัน สถานะและเสถียรภาพทางการคลังของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งไม่มีทาง และยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า “ถังแตก” โดยทุกอย่างยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารจัดการและคาดการณ์งบประมาณ ที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆ
รมช.คลัง กล่าวด้วยว่า วันที่ 27 พ.ค.นี้ จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2567 ขยายตัวได้ 1.5% ถือเป็นระดับที่ชะลอตัว โดยในที่ประชุม ครม. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจที่เติบโตได้ต่ำ โดยเฉพาะการชะลอตัวในภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรม และมองว่าจำเป็นจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 67)
Tags: กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต, กรมสรรพากร, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ภาษี