หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ว่า จีนยินยอมให้ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN) เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 20 ก.พ.
ก่อนหน้านี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาว่า จีนข่มเหงชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ เป็นวงกว้างในซินเจียง รวมถึง การกักกันหมู่ การทารุณกรรมและการบังคับใช้แรงงาน นอกจากนี้ จีนยังถูกสหรัฐกล่าวหาว่าก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนซินเจียงครั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขว่า คณะทำงานของ UN จะต้อง “เป็นมิตร” และไม่ได้ลงพื้นที่เพื่อการสอบสวน
สถานการณ์ครั้งล่าสุดนี้คล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2551 ที่มีการจุดกระแสด้านสิทธิมนุษยชนของจีนในช่วงการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเลวร้ายลงทุกที ทำให้สหรัฐเรียกวิธีที่จีนปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้ สหรัฐและอีกหลายประเทศยังได้พร้อมใจกันคว่ำบาตรทางการทูตต่อจีนอีกด้วย
“รัฐบาลจีนไม่สามารถตบตาใครได้ โดยเฉพาะนักสิทธิมนุษยชนชั้นนำของโลก ด้วยความพยายามในการดึงความสนใจไปจากอาชญากรรมที่จีนก่อต่อมนุษยชาติ ซึ่งเล็งเป้าไปยังชาวอุยกูร์และกลุ่มชนเตอร์กิกอื่น ๆ” นางโซฟี ริชาร์ดสัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรตส์วอตช์ประจำประเทศจีนกล่าวต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้
ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือ NDAA) ซึ่งกำหนดให้สหรัฐใช้ “มหายุทธศาสตร์” (Grand Strategy) กับจีนเพื่อจัดการกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่มีต้นตอมาจากจีน และห้ามกระทรวงกลาโหมสหรัฐจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 65)
Tags: UN, จีน, สิทธิมนุษยชน, แรงงาน