รายงานฉบับใหม่จากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธในออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า การลงทุนของบริษัทจีนในประเทศสมาชิกแนวร่วมโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) เพิ่มขึ้นเกือบ 80% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 โดยบริษัทต่าง ๆ ทุ่มเงินเกือบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในโครงการในต่างประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อนับตั้งแต่ปี 2556 แล้ว บริษัทจีนได้ลงทุนกับโครงการต่าง ๆ ใน 150 ประเทศสมาชิกโครงการ BRI เป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
รายงานระบุว่า การลงทุนในโครงการเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้เติบโตอย่างมาก ขณะที่ภาคส่วนแบตเตอรี่มีการลงทุนประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากแผนการสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในเกาหลีใต้และโรงงานรถยนต์ในประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย เวียดนาม บราซิล และฮังการี
การลงทุนในต่างประเทศของจีนในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2559 แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว รวมถึงบางประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนและแนวปฏิบัติในการกู้ยืมก็ตาม
ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เปิดตัวโครงการ BRI เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและอิทธิพลของจีน โดยสมาชิกโครงการต่างเป็นประเทศที่รักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 67)