จีนเผยรายละเอียดคดี “ซิงซิง” สนธิกำลังตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 12 ราย

กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน เปิดเผยในวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า ทางการจีนได้สั่งการให้หลายหน่วยงาน รวมถึง สถานทูตจีนและสถานกงสุลจีน เร่งช่วยเหลือและดำเนินการสืบสวนคดีที่ชาวจีนหลายคน รวมถึงนักแสดง หวัง ซิง หรือ “ซิงซิง” ถูกหลอกไปยังชายแดนไทย-เมียนมาก่อนหายตัวไปและถูกกักขัง จนสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน

กระทรวงฯ ระบุว่า ความพยายามดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือหวัง และชาวจีนคนอื่น ๆ เดินทางกลับจีนได้อย่างปลอดภัย

จากการสืบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 หวังได้เห็นประกาศเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ ในกลุ่มวีแชต และได้ติดต่อไปยังบัญชีวีแชตของผู้ช่วยผู้กำกับที่ใช้ชื่อว่า “หยาน สือหลิว” และพูดคุยกันเกี่ยวกับการถ่ายทำในกรุงเทพฯ ก่อนที่ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 3 ม.ค. 2568 หวังเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและนั่งรถที่ “หยาน สือหลิว” ส่งมา และนั่งรถไป อ.แม่สอด จ.ตาก บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และถูกพาตัวไปยังเมืองเมียวดีของเมียนมา ก่อนจะถูกค้ามนุษย์ไปยังแหล่งฉ้อโกงออนไลน์ต่าง ๆ

เว็บไซต์โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสาธารณะกำลังสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรค้ามนุษย์ในเมียวดี ซึ่งล่อลวงผู้คนผ่านประกาศหางานปลอมในวีแชตมาตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 โดยกลุ่มดังกล่าวหลอกล่อเหยื่อให้มาไทยก่อนพาตัวพวกเขาไปยังเมียนมาและขายพวกเขาให้กับกลุ่มฉ้อโกงออนไลน์ นอกจากนี้ คดีผู้สูญหายหรือถูกกักขังในต่างประเทศหลายคดีเมื่อไม่นานมานี้ต่างก็มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนี้

ตำรวจจีนและไทยสามารถร่วมกันจับกุมผู้ต้องสงสัย 12 รายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามพรมแดน โดยการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไปด้วยความพยายามที่จะจับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เพื่อช่วยตามหาบุคคลที่สูญหายหรือติดอยู่ในต่างประเทศ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้ส่งหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในพื้นที่เพื่อรวบรวมและคัดแยกเบาะแสต่าง ๆ อย่างครอบคลุม พร้อมดำเนินการสืบสวนโดยเร็ว และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่สูญหายหรือติดอยู่ในต่างแดน

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสาธารณะจะเดินหน้าปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตข้ามพรมแดนต่อไป โดยเพิ่มความเข้มข้นแก่ปฏิบัติการพิเศษเพื่อปราบปรามอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าว เสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ และเดินหน้าทำงานอย่างไม่ย่อท้อเพื่อทลายแหล่งฉ้อโกงในต่างประเทศ จับกุมบุคคลสำคัญและผู้สนับสนุนทางการเงินของกลุ่มอาชญากร และประสานงานในการช่วยเหลือบุคคลที่ติดถูกกักขังอยู่ในต่างแดน

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการไว้วางใจข้อเสนองานในต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแผนการร้ายเหล่านี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)

Tags: ,