สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ (7 ก.ย.) ว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในเดือนส.ค. เนื่องจากโรงกลั่นของจีนทำการเพิ่มสต็อกและเพิ่มกำลังการกลั่น โดยคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์จากกำไรที่สูงขึ้นจากการส่งออกเชื้อเพลิงไปขายยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนส.ค.อยู่ที่ 52.8 ล้านตัน หรือ 12.43 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นอัตราการนำเข้ารายวันสูงสุดเป็นอันดับ 3
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบเดือนส.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 20.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 30.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 379 ล้านตัน
นางซู เผิง นักวิเคราะห์ด้านผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากบริษัทเจแอลซีกล่าวว่า “อัตราการกลั่นน้ำมันในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตรากำไรจากการส่งออกเชื้อเพลิงก็ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเราคาดว่าการส่งออกเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นางเผิงยังกล่าวด้วยว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงภายในประเทศของจีนเพิ่มขึ้น โดยเดือนส.ค.ถือเป็นช่วงพีกสำหรับอุปสงค์น้ำมันเบนซิน และเนื่องจากฤดูร้อนปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ประชาชนสามารถเดินทางออกไปพักผ่อนหลังจากที่ถูกล็อกดาวน์ในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ความต้องการการเดินทางเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอ โดยการทรุดตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และความอ่อนแอของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 66)
Tags: จีน, น้ำมัน, น้ำมันดิบ, นำเข้าน้ำมัน