องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ในวันนี้ (4 ก.ค.) ว่า จีนครองแชมป์จดสิทธิบัตรปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) มากที่สุดในโลก โดยยื่นจดสิทธิบัตรมากกว่า 38,000 ฉบับระหว่างปี 2557-2566 ซึ่งมากกว่าสหรัฐถึง 6 เท่า
เมื่อแยกตามประเทศแล้ว จีนจดสิทธิบัตรไป 38,210 ฉบับ ซึ่งแซงหน้าสหรัฐ (6,276 ฉบับ), เกาหลีใต้ (4,155 ฉบับ), ญี่ปุ่น (3,409 ฉบับ) และอินเดีย (1,350 ฉบับ)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนพยายามไล่ตามโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นเจ้าของแชตจีพีที (ChatGPT) และบรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) อัลฟาเบท (Alphabet) และอะเมซอน (Amazon) ในการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หลังจากที่แชตจีพีทีได้สร้างความฮือฮาให้กับทั้งโลกเมื่อเดือนพ.ย. 2565 เนื่องจากความสามารถในการตอบสนองที่คล้ายคลึงกับมนุษย์
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน รวมถึงอาลีบาบา (Alibaba) และไป่ตู้ (Baidu) ได้เปิดตัวโมเดล LLM ของตนเองเพื่อแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ นอกจากนี้ จีนยังได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการ 3 ปี เมื่อเดือนพ.ค. เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานในชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI), ปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง และส่งเสริมพลังการประมวลผลของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 67)
Tags: AI, จดสิทธิบัตร, จีน