ศูนย์จีโนมทางการเพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ได้ประสานความร่วมมือเพื่อเฝ้าติดตาม FU.1 เนื่องจากมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50% โดยความรุนแรงยังไม่ปรากฏ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่โควิด-19 ตระกูลโอมิครอน ยังมีการกลายพันธุ์แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่เด่นชัดมี 3 กลุ่ม ได้แก่
– โอมิครอน XBB.1.5 นามแฝงคือ คราเคน (Kraken) มาจากชื่อปลาหมึกยักษ์ในเทพนิยาย
– โอมิครอน XBB.1.16 นามแฝงคือ อาร์คทูรัส (Arcturus) มาจากชื่อดาวฤกษ์
– โอมิครอน XBB.1.9.1 นามแฝงคือ ไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง
ทั้งนี้ กลุ่มโอมิครอน XBB.1.5* มีการลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง และมีการประเมินว่าจะถูกแทนที่โดยกลุ่ม XBB.1.16* และ XBB.1.9.1* ที่พบระบาดมากที่สุดในอินเดีย และมีการกระจายไปทั่วโลก ส่วนในอาเซียนพบในสิงคโปร์และไทย
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ได้ติดตามการกลายพันธุ์ในระดับจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโควิด-19 โดยการเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อในประเทศ และข้อมูลรหัสพันธุกรรมจากฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)” ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (15 เม.ย.-15 พ.ค. 66) พบโอมิครอนสายพันธุ์หลักในประเทศไทยเป็นกลุ่ม XBB* ประมาณ 93.5% ประกอบด้วยสายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งคือ XBB.1.16* ประมาณ 19% อันดับสองเป็น XBB.1.5* ประมาณ 10% และอันดับสามเป็น XBB.1.9.1* ประมาณ 8.4%
สำหรับสายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งกลุ่ม XBB.1.16* พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ
1. รุ่นแรก:
– โอมิครอน XBB.1.16 ทั่วโลกพบ 9,003 ราย ประเทศไทย 139 ราย
2. รุ่นลูก:
– โอมิครอน XBB.1.16.1 ทั่วโลกพบ 2,714 ราย ประเทศไทยพบ 26 ราย
– โอมิครอน XBB.1.16.2 ทั่วโลกพบ 666 ราย ประเทศไทยพบ 25 ราย
– โอมิครอน XBB.1.16.3 ทั่วโลกพบ 175 ราย ประเทศไทยพบ 5 ราย
– โอมิครอน XBB.1.16.4 ทั่วโลกพบ 177 ราย ยังไม่พบในประเทศไทย
– โอมิครอน XBB.1.16.5 ทั่วโลกพบ 135 ราย ยังไม่พบในประเทศไทย
– โอมิครอน XBB.1.16.6 ทั่วโลกพบ 23 ราย ยังไม่พบในประเทศไทย
3. รุ่นหลาน:
– โอมิครอน XBB.1.16.1.1** นามแฝง FU.1 ทั่วโลกพบ 122 ราย ประเทศไทยพบ 1 ราย
– โอมิครอน XBB.1.16.1.2 นามแฝง FU.2 ทั่วโลกพบ 149 ราย ยังไม่พบในประเทศไทย
สำหรับสายพันธุ์ย่อยอันดับสามคือกลุ่ม XBB.1.9.1* พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ รุ่นแรก รุ่นลูก และรุ่นหลานเช่นกัน ใช้ชื่อเรียกเป็นอักษรย่อ “FL” ตามด้วยตัวเลขทศนิยม ยังไม่มีการตั้งชื่อนามแฝง
ส่วนสายพันธุ์ย่อยในกลุ่มโอมิครอน XBB.1.16* โดยเฉพาะ FU.1 ถือได้ว่าเป็นรุ่นหลานของ XBB.1.16 พบการระบาดมากในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ประสานความร่วมมือให้ช่วยกันเฝ้าติดตาม เนื่องจากมีค่าความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%
ในขณะที่กลุ่มโอมิครอน XBB.1.16* รุ่นลูก คือ XBB.1.16.1 พบการแพร่ระบาดในสวีเดน โดยมีโอมิครอนกลุ่ม XBB.1.9.1 และรุ่นลูกและรุ่นหลาน FL* กลายพันธุ์แพร่ระบาดตามมาติดๆ คาดว่าอาจเข้ามาแทนที่กลุ่ม XBB.1.16* ในอนาคต
อนึ่ง * หมายถึงโควิดสายพันธุ์นั้น สามารถแตกสายพันธุ์ย่อยเพิ่มได้อีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66)
Tags: COVID-19, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์ใหม่, โอไมครอน