จับตาท่าทีจีน หลังสหรัฐฯ จ่อปรับขึ้นภาษีนำเข้าสูงขึ้นจากประเดิม 10%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive orders) ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ 10% รวมถึงเม็กซิโก และแคนาดาที่ 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.พ.68 ด้านรัฐบาลจีนระบุว่าจะร้องเรียนต่อองค์กรการค้าโลก (WTO) แต่ยังไม่ได้ระบุถึงมาตรการตอบโต้ด้านอื่น ๆ อย่างชัดเจน

การปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เร็วกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งคาดว่า 10% จะเป็นเพียงอัตราเบื้องต้นที่สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บจากทางจีน โดยสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีน ใน 11 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 401.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

“ในระยะต่อไป จึงคาดว่าการเร่งส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ จะยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภคของจีน ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีมากที่สุด เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ ยังไม่เคยถูกจัดเก็บภาษีในสงครามการค้ารอบก่อน” ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ

ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกข้อยกเว้นภาษีนำเข้ากับสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน/คน (De Minimis) สอดคล้องกับแนวทางของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในช่วงปีก่อน ซึ่งหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (BCP) ระบุว่าในปี 2561- 2564 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีนผ่านการยกเว้นภาษีนำเข้าตามเกณฑ์ขั้นต่ำ (De Minimis) ถึง 67.4% ของทั้งหมด โดยคาดว่าส่วนใหญ่เป็นสินค้าแฟชั่นที่มาจากแพลตฟอร์ม E-commerce ของจีน

การยกเลิกดังกล่าว จะส่งผลให้ต้นทุนการส่งออกของบริษัท E-commerce ในจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปจะนำมาสู่การสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับ E-commerce ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มองว่าช่องทางดังกล่าว ยังเป็นความเสี่ยงในการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย

ในระยะต่อไป สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นภาษีจีนในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งอัตราภาษีที่จะปรับเพิ่มคาดว่าขึ้นอยู่กับการเจรจา และการทำข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 68)

Tags: , ,