นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ของจีนในวันนี้ ขณะที่ผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กพบว่า GDP จีนมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 5% ในไตรมาส 3 จากระดับ 7.9% ในไตรมาส 2 โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ รวมทั้งการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า, ความเชื่อมั่นที่อ่อนแอของผู้บริโภค และต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งขึ้นในภาคการผลิต
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า จีนจะเปิดเผยตัวเลขการลงทุนที่ซบเซา และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดค้าปลีกอาจฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ตัวเลข GDP ของจีนขยายตัว 7.9% ในไตรมาส 2 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 5 ไตรมาส โดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี GDP ประจำไตรมาส 2 ของจีนชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัวเป็นประวัติการณ์ถึง 18.3% นอกจากนี้ GDP ในไตรมาส 2 ยังขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 8.0-8.1%
ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 12.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 64)
Tags: GDP จีน, พลังงานไฟฟ้า, อสังหาริมทรัพย์, เศรษฐกิจจีน, เอเวอร์แกรนด์, ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป