ข่าว

จนท.เกาหลีใต้กว่า 30 รายติดโควิดหลังร่วมงานแสดงสินค้า CES ในสหรัฐ

12
ม.ค.

ข่าวต่างประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวอุตสาหกรรมในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่กว่า 30 รายจากบรรดาบริษัทใหญ่ของเกาหลีใต้ที่เข้าร่วมงาน Consumer Electronics Show (CES) ซึ่งเป็นมหกรรมงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในลาสเวกัสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกขณะอยู่ในสหรัฐ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประมาณ 20 คนจากบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์และประมาณ 6 คนจากบริษัทเอสเค กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทเอสเค อินโนเวชั่น และบริษัทเอสเค ไฮนิกซ์ อยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อดังกล่าว

ขณะที่ บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรี่ส์ได้ออกมาระบุว่า พนักงาน 6 คนของทางบริษัท ซึ่งเข้าร่วมงาน CES ติดเชื้อโควิด-19 ขณะอยู่ในสหรัฐและต้องกักตัว โดยบางส่วนได้รับอนุญาตให้ออกจากการกักตัวแล้ว

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบได้รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่หลายรายจากบริษัทฮุนได มอเตอร์และฮุนได โมบิส ซึ่งเข้าร่วมงาน CES ติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางกลับถึงเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อ

ส่วนหนังสือพิมพ์โชซัน อิลโบรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวอุตสาหกรรมว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของบริษัทซัมซุงที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้เดินทางออกจากรัฐเนวาดาถึงประเทศเกาหลีใต้แล้วผ่านเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ โดยเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อวันอังคาร (11 ม.ค.) และคาดว่าเจ้าหน้าที่บริษัทซัมซุงที่เหลือนั้น จะเดินทางกลับเกาหลีใต้วันนี้

เจ้าหน้าที่ของซัมซุงถูกส่งไปตามศูนย์กักตัวต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงอาการของโรค หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ปฏิเสธที่จะยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับการติดเชื้อดังกล่าว โดยระบุว่า “บริษัทได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของผู้เข้าร่วมงาน CES” รวมถึงการบังคับใช้ข้อกำหนดการฉีดวัคซีน การสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างทางสังคม และการตรวจหาเชื้อให้กับพนักงานทุกคนตลอดทั้งสัปดาห์ที่เข้าร่วมงาน CES

ก่อนหน้านี้หลายบริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกแผนเข้าร่วมงาน CES ในสถานที่จริง เพราะยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น เช่น เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ อิงค์, เลโนโว กรุ๊ป, เอทีแอนด์ที อิงค์ และแอมะซอนดอทคอม อิงค์ โดยระบุว่าไม่อาจส่งพนักงานเข้าร่วมงานโดยไม่ระวังการระบาดของไวรัสโอมิครอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 65)

Tags: , , , ,