ค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทำให้บรรดาสถาบันการศึกษาต้องปรับขึ้นค่าเล่าเรียน
เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ (S&P Global Ratings) เผยแพร่รายงานประจำปีเกี่ยวกับภาคการศึกษาในวันพุธ (12 ก.พ.) ว่า ค่าเล่าเรียนรายปีสำหรับโรงเรียนไป-กลับในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 7.4% เป็น 49,284 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย และค่าเล่าเรียนสำหรับโรงเรียนประจำเพิ่มขึ้นประมาณ 5.3% สู่ระดับ 73,080 ดอลลาร์ โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลของโรงเรียนเอกชน 53 แห่งที่ S&P จัดอันดับความน่าเชื่อถือนั้น อัตราร้อยละของค่าเล่าเรียนโรงเรียนไป-กลับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 ปี
การเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโรงเรียนชะลอการปรับขึ้นค่าเล่าเรียนในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 แต่เมื่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนครูหรือค่าวัสดุอุปกรณ์ สถาบันการศึกษาจึงจำเป็นต้องเก็บค่าเล่าเรียนจากนักเรียนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภาคการศึกษาของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม โดยประมาณ 60% ของโรงเรียนต่าง ๆ รายงานว่าการลงทะเบียนในฤดูใบไม้ร่วงปี 2567 ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 8% ของโรงเรียนเหล่านี้มีการเติบโตกว่า 3%
นักวิเคราะห์เตือนว่า ค่าเล่าเรียนกำลังปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์ เนื่องจากจำนวนเด็กวัยเรียนลดลง รวมถึงมีโรงเรียนให้เลือกมากขึ้น นอกจากนี้ โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่าย (voucher programs) อาจทำให้ผู้ปกครองเลือกตัวเลือกที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
ในปี 2567 โรงเรียนเอกชนของสหรัฐฯ ได้ระดมเงินทุนผ่านการออกพันธบัตรเทศบาล (municipal bonds) ในวงเงิน 800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากวิกฤตธนาคารระดับภูมิภาคในปี 2567 เป็นอุปสรรคที่ทำให้ภาคการศึกษาไม่สามารถกู้ยืมเงินโดยตรงกับธนาคารพาณิชย์
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า จนถึงปีนี้มีโรงเรียนเอกชนเพียงแห่งเดียวที่สามารถขายพันธบัตรเทศบาลได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 68)
Tags: S&P Global Ratings, ค่าเทอม, สหรัฐ, เงินเฟ้อ, เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์, โรงเรียนเอกชน