กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น เปิดเผยวันนี้ (10 มี.ค.) ว่า ค่าจ้างที่แท้จริงในเดือนม.ค.ลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาอาหารและน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะ 4.7% ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่เป็นตัวเงินที่ 2.8%
สำหรับค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน หรือรายได้เงินสดรวมเฉลี่ยต่อเดือนของพนักงาน ซึ่งรวมเงินเดือนพื้นฐานและค่าล่วงเวลา เพิ่มขึ้น 2.8% เป็น 295,505 เยน (2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ในสถานประกอบการที่มีพนักงาน 5 คนขึ้นไป นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 37 แต่การลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันของรัฐบาล และราคาข้าวและผักสดที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้อำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลง
ข้อมูลยังระบุว่า ในสถานประกอบการที่มีพนักงาน 5 คนขึ้นไป ค่าจ้างที่แท้จริงหรือค่าจ้างที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอำนาจซื้อของผู้บริโภค ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 26 จนถึงเดือนพ.ค. 2567 และเพิ่มขึ้นเฉพาะในช่วงที่มีการจ่ายโบนัสในเดือนมิ.ย., ก.ค., พ.ย. และธ.ค. ขณะที่สถานประกอบการที่มีพนักงาน 30 คนขึ้นไป ค่าจ้างที่แท้จริงลดลง 0.7% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเติบโตของค่าจ้างเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จับตามองอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลยังคงเรียกร้องให้ภาคธุรกิจเพิ่มค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า ขณะที่ BOJ มองว่าการเติบโตของค่าจ้างอย่างยั่งยืนเป็นเงื่อนไขสำคัญในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกลับสู่ภาวะปกติทางการเงิน
สำหรับการเจรจาค่าจ้างประจำฤดูใบไม้ผลิที่เริ่มขึ้นในเดือนม.ค. ผู้นำกลุ่มธุรกิจชั้นนำและสหพันธ์แรงงานที่ใหญ่ที่สุดต่างเห็นพ้องถึงความสำคัญในการรักษาแรงขับเคลื่อนการปรับขึ้นค่าจ้าง ท่ามกลางภาวะราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น โดยผลการเจรจาของบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่ส่วนใหญ่มีกำหนดรายงานในวันพุธนี้ (12 มี.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)
Tags: ค่าจ้าง, ญี่ปุ่น, แรงงาน