นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 6.25% ในการประชุมวันที่ 7 ก.พ. และอาจปรับลดอีกครั้งในไตรมาส 2 ปีนี้
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ยังคงมั่นใจว่า RBI จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 7 ก.พ. หลังจากข้อมูลล่าสุดระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียชะลอตัวลงแตะระดับ 5.4% ในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
RBI เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1.0175 แสนล้านรูปี (1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค. ซึ่งเป็นการเข้าซื้อพันธบัตรครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปี ลดลง 0.07% สู่ระดับ 6.65% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
เทรดเดอร์มองว่า การอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านการซื้อพันธบัตรสะท้อนให้เห็นว่า RBI ต้องการที่จะผ่อนคลายสภาพคล่องในภาคธนาคารและฉุดอัตราดอกเบี้ยในตลาดให้ปรับตัวลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ผลสำรวจระหว่างวันที่ 22-30 ม.ค. พบว่า นักวิเคราะห์กว่า 70% คาดการณ์ว่า RBI จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) 0.25% เหลือ 6.25% ในการประชุมวันที่ 5-7 ก.พ. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกภายใต้การนำของซานเจย์ มัลโฮตรา ผู้ว่าการ RBI คนใหม่
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาดของโควิด-19
กูนาล คุนดู นักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียของโซซิเอเต้ เจเนเรล (Societe Generale) กล่าวว่า “ผู้ว่าการคนใหม่ของ RBI มุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจและค่าเงิน ซึ่งแตกต่างจากผู้ว่าการคนก่อน สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินของ RBI มีแนวโน้มจะนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ มากกว่าที่จะใช้ป้องกันเงินเฟ้อเหมือนที่ผ่านมา”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 68)
Tags: ดอกเบี้ยนโยบาย, ธนาคารกลางอินเดีย, อินเดีย, เศรษฐกิจอินเดีย