ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มพุ่งขึ้นในปี 2567 จากระดับเฉลี่ยของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน และคาดว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะหนุนราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 30 ต.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ทำการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์จำนวน 30 คนในเดือนต.ค.ซึ่งพบว่า ค่ากลางของตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2567 อยู่ที่ 1,986.5 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์ของปีนี้ที่ 1,925 ดอลลาร์/ออนซ์
เจมส์ มอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟาสต์มาร์เก็ตส์กล่าวว่า “สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะสั้น แม้เราไม่คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ได้เป็นเวลานาน จนกว่าธนาคารกลางในฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน”
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2567 แต่ผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่ามีนักวิเคราะห์เพียง 55% ที่คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อเทียบกับระดับกว่า 70% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมซื้อเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจและการเมืองเผชิญกับความไม่แน่นอน ปรับตัวขึ้นกว่า 7% ในเดือนต.ค. เนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้กระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาด COMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 66)
Tags: ตะวันออกกลาง, ทองคำ, นโยบายการเงิน, ราคาทองคำ