ในเวทีการประชุมสุดยอดด้านวีดิทัศน์แห่งเอเชีย (Asian Video Summit 2023) ซึ่งเป็นเวทีการสัมมนาระดับนานาชาติ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านวีดิทัศน์ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการ นักวิชาชีพในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิดิทัศน์ ตลอดจนองค์กรภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลในภูมิภาคเอเชียและระดับโลก ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66
โดยได้มีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 180 คนจาก 22 ประเทศ ในประเด็นว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศใดมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเนื้อหาในภูมิภาค เฉกเช่นกับความสำเร็จของเกาหลี ซึ่งผลออกมาว่า 40% ของผู้ร่วมโหวต ตอบว่าประเทศไทย ในขณะที่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 16% และอินโดนีเซีย เป็นอันดับที่ 3 มีคะแนน 13% ส่วนตลาดอื่นๆ คือฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ได้คะแนน 7% เท่ากัน ในขณะที่ไต้หวัน ได้คะแนน 6%
นางพิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศไทย ได้ร่วมเวทีในหัวข้อ Thailand’s Time ในการประชุม Asia Video Summit 2023 โดยกล่าวว่า เนื้อหาสื่อวีดิทัศน์ของไทยมีศักยภาพสูงมาก เห็นได้จากการเปิดรับอย่างกว้างขวางของตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ตลอดจนรางวัลที่ได้รับจากเวทีระดับสากล แต่ยังขาดการส่งเสริมอย่างมียุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งจากโครงสร้างของกลไกในภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่มีหลายส่วนและต่างคนต่างทำ โดยไม่ประสานให้มีทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการพูดคุย เพื่อแสวงหาแนวทางที่สอดคล้องกัน และจัดการให้มีการจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่ง กสทช.พร้อมที่จะเป็นตัวกลางให้เกิดการหารือดังกล่าว
“ผู้ที่อยู่ในวงการวีดิทัศน์นอกประเทศ ต่างก็ชื่นชม และมองว่าเราจะเป็นเหมือนเกาหลี ในแง่ของการพัฒนาเนื้อหาสู่สากล แต่เราต้องลงทุน และวางแนวทางที่ชัดเจนอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อสนับสนุนผู้เล่นจากประเทศเราให้แข่งขันได้” นางพิรงรอง กล่าว
นอกจากนี้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมระบบนิเวศด้านสื่อที่เอื้อต่อการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทั้งสำหรับผู้ประกอบการในประเทศ และผู้ให้บริการจากต่างประเทศ
“การกำกับดูแลแบบ light touch หรือการกำกับดูแลแบบที่ไม่ไปควบคุมมากเกินไป เพื่อเปิดพื้นที่ให้ความสร้างสรรค์และนวัตกรรมด้านเนื้อหาจากผู้เล่นในภาคอุตสาหกรรมเป็นสิ่งจำเป็น โดยอาจเป็นการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง ให้ผู้ประกอบกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วมกำหนดกฎกติการ่วมกัน เป็นมาตรฐานกลางของชุมชนผู้ประกอบการ และ กสทช. และองค์กรภาครัฐจะเป็นผู้ส่งเสริมในเชิงทรัพยากรที่จำเป็น” นางพิรงรอง กล่าว
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้าน Strategic Content & Public Affairs บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)กล่าวว่า เนื้อหาของไทยมีความดึงดูดหลายประการที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมไทยที่มีความลุ่มลึกในเชิงประวัติศาสตร์และเรื่องราว ความสวยงามของภูมิประเทศ ผู้แสดงที่มีรูปลักษณ์ตรงกับมาตรฐานความงามที่เป็นสากล อีกทั้งยังแสดงเก่ง ตลอดจน ความคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้าง และทักษะการผลิตที่ไม่เป็นรองใครในระดับภูมิภาค เราจึงมีองค์ประกอบที่พร้อมที่จะก้าวต่อไปในระดับสากล
ทั้งนี้ งาน Asia Video Summit 2023 จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมวีดิโอเอเชีย (Asia Video Industry Association: AVIA) ระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรม Kerry Hotel โดยมีผู้แทนจากอุตสาหกรรมโทรทัศน์ วีดิโอ ตลอดจนกิจการที่เกี่ยวข้อง เช่น เกมและการโฆษณา เข้าร่วม 180 คน โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น เบื้องหลังความสำเร็จของคลื่นความนิยมเกาหลี อนาคตของสื่อบันเทิงจีน การหารายได้สำหรับสื่อโสตทัศน์ และบทบาทของ AI ในอุตสาหกรรมสื่อ เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 66)
Tags: Asian Video Summit 2023, พิรงรอง รามสูต, พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา, วีดิทัศน์