ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (11 มี.ค.) ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวออสเตรเลียในเดือนมี.ค.ปรับตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากปัจจัยบวกด้านเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีของธนาคารกลาง (RBA) ซึ่งช่วยคลายความกังวลของผู้บริโภคลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากสถาบันเวสต์แพค-เมลเบิร์น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก.พ. และสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 13.6% แม้ดัชนีที่ระดับ 95.9 จะยังสะท้อนว่ามีผู้มองในแง่ลบมากกว่าบวกก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า RBA ได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 4.1% ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าหนึ่งปี อย่างไรก็ดี ผู้กำหนดนโยบายยังระบุว่า โอกาสในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมยังไม่แน่นอน
ตลาดสวอปคาดการณ์ว่า แม้โอกาสที่ RBA จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนเม.ย.จะมีน้อยมาก แต่มีความเป็นไปได้สูงถึง 80% ที่จะมีการปรับลดในเดือนพ.ค. โดยคาดว่าดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 3.5% ภายในสิ้นปี
ด้านแมทธิว ฮัสซัน หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์เศรษฐกิจมหภาคของออสเตรเลียจากเวสต์แพค ระบุว่า การตัดสินใจของ RBA ในเดือนก.พ.ได้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นว่า ดอกเบี้ยจะยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง พร้อมชี้ว่า ผู้บริโภคเริ่มมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อตลาดแรงงาน โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) แล้ว
ในรายละเอียดของผลสำรวจแสดงให้เห็นสัญญาณบวกหลายประการ โดยดัชนีมุมมองต่อฐานะการเงินครัวเรือนในอีกหนึ่งปีข้างหน้าเพิ่มขึ้น 3.2% สู่ระดับ 108.3 สะท้อนว่ามีผู้มองแนวโน้มในเชิงบวกมากกว่าลบ
ขณะเดียวกัน ดัชนีมุมมองต่อเศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 3.6% และมุมมองต่อเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้น 4%
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยก็ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีชี้วัดความเหมาะสมในการซื้อสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น 6.9% สู่ระดับ 97.1
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มี.ค. 68)
Tags: ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ออสเตรเลีย, อัตราดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ