น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่าย 50% สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 1,500 บาทต่อคนในแต่ละรอบ รอบแรกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
“ประชาชนสัญชาติไทย ที่มีบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น.-22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน” โฆษกกระทรวงการคลังระบุ
สำหรับผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐ อาทิ ชิมช้อปใช้, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, เราชนะ, ม.33เรารักกัน เป็นต้น หรือที่เคยใช้บริการกระเป๋าตังสุขภาพ หรือ วอลเล็ต สบม. สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการยืนยันเข้าร่วมโครงการ หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ก็ได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าวข้างต้น สามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน
จากนั้น ขอให้ยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง ได้แก่ (1) ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย หรือ (2) ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้ หรือ (3) ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว จะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
กรณีผู้รับสิทธิคนละครึ่งระยะที่ 3 แล้ว หากต้องการจะเปลี่ยนไปรับสิทธิโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” (จะเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับประชาชนในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 06.00 น.-22.00 น.) จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 22.00 น. ซึ่งถือเป็นการสละสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่ได้รับสิทธิทันที
สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป (ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยไม่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์) ผู้ประกอบการของกองทุนหมูบ้านหรือชุมชนเมืองหรือวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น.-22.00 น.
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป และผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ในวันและเวลาเดียวกัน โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่น ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตามที่ต้องการเข้าร่วม หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ โดยธนาคารกรุงไทยฯ จะช่วยติดตั้งและแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 64)
Tags: กุลยา ตันติเตมิท, คนละครึ่ง, ยิ่งใช้ยิ่งได้, สศค., สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง