น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า การใช้จ่ายเม็ดเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดูแลสถานการณ์โควิด-19 นั้น หากภายในปีนี้มีการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 64 ขยายตัวเพิ่มอีกประมาณ 0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3-2.8%
ทั้งนี้ คาดว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลในการออกมาตรการต่าง ๆ ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็นจากสถานการณ์โควิด-19 โดยอาจไม่ได้นำมาแจกผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น คนละครึ่ง หรือเราชนะ ทั้งหมด
“การใช้จ่ายเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท จะต้องพิจารณาโครงการอื่น ๆ ด้วย อาจไม่ได้นำมาแจกเยียวยาทั้งหมด ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเป็นผู้พิจารณาโครงการต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็ต้องใช้ในการจ้างงาน รวมทั้งมาตรการ จากกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลสถานการณ์โควิดด้วย”
ผู้อำนวยการ สศค.กล่าว
พร้อมระบุว่า การกู้เงินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท ไม่ส่งผลต่อวินัยการคลัง เพราะระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบ 60% ของจีดีพี รวมถึงฐานะการคลังยังไม่น่าเป็นห่วง แม้ว่าการจัดเก็บรายได้รัฐในปี 2564 จะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่เงินคงคลังต้นงวดปีงบประมาณ 2564 ยังอยู่ที่ระดับ 5 แสนล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 64)
Tags: GDP, กระทรวงการคลัง, กุลยา ตันติเตมิท, พ.ร.ก.กู้เงิน, สศค., สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, เศรษฐกิจไทย