นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งกำหนดให้มีกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อเป็นกลไกในการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจะสร้างโอกาสในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมความพร้อมและการสร้างมาตรฐานสากลให้กับผู้ประกอบการที่จะส่งสินค้าไปยังประเทศที่มีการบังคับใช้ CBAM ได้เตรียมตัวและสามารถใช้ราคาคาร์บอนนี้ในกรณีที่จะมีการจัดเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาคาร์บอนจากสินค้าที่จะนำเข้าไปในประเทศนั้น ๆ
โดยมาตรการนี้ เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างภายในภาษีสรรพสามิตที่มีการคำนวณราคาคาร์บอนฝังตัวในภาษีน้ำมัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า การกำหนดราคาคาร์บอนนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของภาคอุตสาหกรรม และไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันใด ๆ ทั้งสิ้น
สำหรับสินค้าที่จะกำหนดกลไกราคาคาร์บอน ได้แก่ น้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน แก๊สโซฮอล์ประเภทต่าง ๆ น้ำมันก๊าดและน้ำมันที่จุดให้แสงสว่างที่คล้ายกัน น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน ไบโอดีเซลประเภทต่าง ๆ LPG ก๊าซโพรเพรนและก๊าซที่คล้ายกัน น้ำมันเตาและน้ำมันที่คล้ายกัน โดยกำหนดราคาคาร์บอนน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเบื้องต้นที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า
กำหนดกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตเท่ากับ ราคาคาร์บอนที่กำหนดคูณกับค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor) ของน้ำมันแต่ละชนิด
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ตามเป้าหมาย Carbon Neutrality 2050 และ Net Zero 2065 ประกอบกับอุตสาหกรรมยานยนต์และน้ำมันที่เป็นต้นทางของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 70% จากทั้งหมด กระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าว จึงกำหนดกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับมีขึ้น เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรองรับกับการพัฒนาประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 68)
Tags: ประชุมครม., ภาษีคาร์บอน, มติคณะรัฐมนตรี, เผ่าภูมิ โรจนสกุล