น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (12 เม.ย.) เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์การสนับสนุนด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี หรือ GAP (Good Aquaculture Practice) และมาตรฐานฟาร์มกุ้ง CoC (Code of Conduct) จากมติ ครม.เมื่อ 30 ก.ย.46 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเดิมได้กำหนดให้เกษตรกรและผู้ประกอบกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลจะต้องเป็นฟาร์มที่ได้รับการรับรองทั้ง 2 มาตรฐาน คือ GAP และ CoC จากกรมประมง ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อ ซึ่งในปัจจุบันเกษตรกรและผู้ประกอบกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสามารถเลือกขอรับการรับรองมาตรฐานเพียงมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่งที่เหมาะสมเท่านั้น ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงปรับหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เป็นเกษตรกรและผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลที่ประกอบกิจการอยู่ในเขตพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลตามประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดและแจ้งประกอบกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม (จสค.) จากเดิมอยู่นอกพื้นที่ป่าชายเลน
2.เป็นฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี GAP (Good Aquaculture Practice) หรือมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล Code of conduct หรือมาตรฐานสินค้าเกษตรที่เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าเกษตรจากกรมประมง หรือหน่วยงานรับรองเอกชนที่ได้รับการรับรองระบบงานจากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จากเดิมที่ต้องผ่านการรับรองทั้ง 2 มาตรฐาน คือ GAP และ CoC จากกรมประมง
ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาให้สินเชื่อของสถาบันการเงินและแจ้งให้สถาบันการเงินรับทราบต่อไป
การปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้เป็นการส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลในพื้นที่ป่าชายเลนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายกำกับดูแลการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลไม่ให้อยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบังคับใช้อยู่แล้ว โดยเกษตรกรและผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลที่จะขอรับรองมาตรฐานนั้น จะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ.1) กับกรมประมงก่อน ซึ่งต้องแสดงหลักฐานข้อมูลที่ดินว่าสถานประกอบการไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น เขตพื้นที่ป่าชายเลน เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น รวมถึงต้องอยู่ในเขตพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลตามที่คณะกรรมการประมงจังหวัดประกาศกำหนด และต้องแจ้งประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 65)
Tags: ครม., ประชุมครม., ผู้เลี้ยงกุ้ง, ฟาร์มกุ้ง, มติคณะรัฐมนตรี, รัชดา ธนาดิเรก, เกษตรกร