นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงานแสดงสินค้าอาหารปี 2566 THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ภายใต้ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของ 3 ฝ่าย คือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และ โคโลญเมสเซ่ ช่วงวันที่ 23-27 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่เมืองทองธานี โดยมีผู้เข้าร่วมงาน 3,034 บริษัท บริษัทไทย 1,109 บริษัท และบริษัทต่างประเทศ 1,925 บริษัท ประกอบด้วยจีน 620 บริษัท เกาหลีใต้ 212 บริษัท เวียดนาม 158 บริษัท มาเลเซีย 109 บริษัท และญี่ปุ่น 57 บริษัท มี 5,859 คูหาจาก 45 ประเทศ ประกอบด้วย เอเชียตะวันออกอาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกาออสเตรเลีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น
โดยในช่วง 5 วัน มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 131,039 คน เพิ่มขึ้น 58% เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 78,764 ราย เพิ่มขึ้น 53% เป็นชาวต่างประเทศ 16,429 ราย เพิ่มขึ้น 150% เป็นจีน เพิ่มขึ้น 2022% มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 127% เวียดนาม เพิ่มขึ้น 79% เกาหลี เพิ่มขึ้น 109% สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 58% และนักธุรกิจชาวไทย 62,335 ราย เพิ่มขึ้น 39% และประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน เฉพาะวันสุดท้ายวันที่ 27 พ.ค.66 จำนวนถึง 52,275 คน เพิ่มขึ้น 66% มูลค่าการซื้อขายจากการจัดงานร่วมกัน 120,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.36% เป็นการซื้อขายทันที 1,106 ล้านบาท โดยซื้อขายภายใน 1 ปี 118,600 ล้านบาท หมวดสินค้าบริการที่ซื้อขายมากที่สุด 5 ลำดับแรก ประกอบด้วย อาหาร ผักผลไม้ เทคโนโลยีด้านอาหาร เช่นเครื่องจักรอุปกรณ์การทำอาหาร หมวดชากาแฟและการให้บริการด้านอาหาร เช่น การให้บริการองค์ความรู้การทำธุรกิจอาหาร และประเทศที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ประกอบด้วย จีน ไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และญี่ปุ่น
สำหรับงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ในปีนี้จะมีส่วนสำคัญให้ตัวเลขการส่งออกอาหารของไทยใน ปี 66 เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วสามารถทำเงินเข้าประเทศได้ถึง 1.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% คาดว่าปีนี้จะสามารถทำเงินเพิ่มจากการส่งออกอาหารได้ถึง 1.5 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้น 10%
ขณะที่ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า อาหารแห่งอนาคตเป็นเทรนด์ของโลก อาหารสมัยใหม่ต้องมีองค์ความรู้ มีนวัตกรรม ผู้ประกอบการของเราหากมีเวลาควรศึกษาส่วนนี้ และกระทรวงพาณิชย์มีการสัมมนาอบรมต่างๆ เรื่องอาหารแห่งอนาคต และเทรนด์อาหารผู้ประกอบการของเราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เติมเต็มอินโนเวชั่นในสินค้าหลากหลายพัฒนาสินค้า และผู้ประกอบการต้องพัฒนาตนเอง
สำหรับ Future Food ในงานนี้มีชาวต่างชาติและคนไทยในวงการอาหารเข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 1,300 ราย โดย Future Food มี 4 ประเภท 1.อาหารฟังก์ชัน (function food) 2.อาหารนวัตกรรมใหม่ (novel food) 3.อาหารอินทรีย์ (organic food) และ 4.อาหารทางการแพทย์ (medical food) โดย 3 ตัวแรกไทยได้รับความสนใจอย่างมาก บริษัท innova ที่ดูเทรนด์อาหารของโลกมาประกาศ Future Food ได้รับความสนใจมาก และที่ต้องให้ความสนใจคือ ของเสียที่เกิดจากอาหารจะนำกลับมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ซึ่งการใช้ green product เป็นแนวทางที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ด้วย BCG model เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไทยได้รับความสนใจอย่างมากในพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่อาหารโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 66)
Tags: THAIFEX-ANUGA ASIA 2023, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, หอการค้าไทย, โคโลญเมสเซ่