ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 55.8-96.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่า เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐาน 75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป) จำนวน 21 พื้นที่
โดยพื้นที่ 10 อันดับแรกที่มีค่าฝุ่นสูง ได้แก่
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 96.2 มคก./ลบ.ม.
2. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 89.6 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 89.1 มคก./ลบ.ม.
4. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 88.0 มคก./ลบ.ม.
5. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 86.3 มคก./ลบ.ม.
6. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 83.5 มคก./ลบ.ม.
7. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 83.4 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 83.0 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 79.4 มคก./ลบ.ม.
10. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 79.4 มคก./ลบ.ม.
ขณะเดียวกัน ยังมีพื้นที่ที่ PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) อีกจำนวน 49 พื้นที่
ส่วนเขตที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุด 5 อันดับแรกในกรุงเทพฯ ได้แก่
อันดับ 1 เขตหนองแขม มีค่า 96.6
อันดับ 2 เขตบางขุนเทียน มีค่า 85.9
อันดับ 3 เขตภาษีเจริญ มีค่า 83.4
อันดับ 4 เขตทวีวัฒนา มีค่า 83.3
อันดับ 5 เขตหนองจอก มีค่า 81.4
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากและควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคารเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 23-30 ม.ค. 68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน” ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้วทรงตัว ในระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. และลดลงเล็กน้อย ในวันที่ 25-28 ม.ค. เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 68)
Tags: PM 2.5, ฝุ่น, ฝุ่นละออง, สถานการณ์ฝุ่น