ขุนคลังสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นถกเรื่องค่าเงิน ไม่กดดันญี่ปุ่นพยุงเงินเยน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ไม่ได้หยิบยกประเด็นการแทรกแซงค่าเงินเยนขึ้นมากดดันคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ในการพบปะกันครั้งแรกของทั้งคู่เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยแสดงความกังวลและกล่าวหาว่าญี่ปุ่นอาจใช้ค่าเงินเพื่อให้ได้เปรียบทางการค้าก็ตาม

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศเปิดฉากการเจรจาอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับนโยบายกำแพงภาษีที่ปธน.ทรัมป์ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าและปกป้องอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ

รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นยืนยันหลังการประชุมราว 50 นาทีในกรุงวอชิงตันว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงยึดมั่นในข้อตกลงเดิมของกลุ่มประเทศ G7 ที่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนควรเป็นไปตามกลไกตลาด และความผันผวนที่มากเกินไปนั้นไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน

คาโตะแถลงข่าวว่า แม้จะมีการพูดคุยเรื่องค่าเงิน แต่ “ไม่มีการเอ่ยถึง” ระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่ต้องการหรือกรอบการควบคุมค่าเงินจากฝั่งสหรัฐฯ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือประเด็นนี้กันต่อไปอย่างใกล้ชิดและสร้างสรรค์

อย่างไรก็ดี ในการเจรจาครั้งนี้ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้แสดงความ “เสียใจอย่างยิ่ง” ต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้ทบทวนนโยบายกีดกันทางการค้าที่เข้มงวด ซึ่งก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ประเด็นการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการค้าเท่านั้น รัฐบาลทรัมป์ยังคงกดดันให้ญี่ปุ่นเพิ่มการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับกองกำลังทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในญี่ปุ่น และยังคงตั้งคำถามถึงอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงกล่าวหาเรื่องการกดค่าเงินเยน ซึ่งทางการญี่ปุ่นปฏิเสธมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐาน อีกทั้งในอดีต ญี่ปุ่นยังเคยเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อเงินเยนเพื่อลดความผันผวน

ปัจจุบัน แม้กำแพงภาษี 24% ที่สหรัฐฯ กำหนดใช้กับสินค้าญี่ปุ่นจะถูกระงับชั่วคราวไปจนถึงต้นเดือนก.ค. แต่อัตราภาษีพื้นฐาน 10% ก็ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ อีกทั้งสหรัฐฯ ก็ยังคงเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สำหรับรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่น

การพบปะของรัฐมนตรีคลังครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เรียวเซ อาคาซาวะ รัฐมนตรีผู้ดูแลการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจา ได้เดินทางเยือนวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้เข้าพบทั้งปธน.ทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการค้าของสหรัฐฯ โดยมีกำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยหวังจะสามารถยกเลิกภาษีเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศได้

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่นำประเด็นการค้ามาเจรจาควบคู่ไปกับข้อตกลงด้านความมั่นคง โดยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ได้เน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญคือเนื้อหาสาระของข้อตกลง มากกว่าความรวดเร็วในการบรรลุข้อตกลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 68)

Tags: , ,