นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) กล่าวในงานเสวนา “กระดาน 3 (LiVE Exchange) โอกาสของ Startups และ SMEs” ในหัวข้อ “นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในการสนับสนุน SMEs ให้เข้าสู่ตลาดทุน”ว่า พันธกิจของ ก.ล.ต.คือ การกำกับและดูแลตลาดทุนให้น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และสังคมทุกภาคส่วนเข้าถึงได้ ดังนั้นจึงต้องเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภททุกขนาด รวมถึงต้องสนับสนุนเครื่องมือต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการและพัฒนาการของธุรกิจแต่ละประเภท
ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งกระดาน 3 LiVE Exchange ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ SMEs เข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายและมากยิ่งขึ้น โดยมีทั้งการระดมทุนในตลาดแรกและเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุน รวมไปถึงตลาดรองเพื่อรองรับการเข้าจดทะเบียนและการซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งจะต้องมีหลักเกณฑ์ในการเข้าจดทะเบียนที่ไม่ยากและไม่ใช้ต้นทุนมากจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถกำกับดูแลผู้ลงทุนได้
“กระดาน LiVE Exchange มีจุดประสงค์คือการสนับสนุนให้ธุรกิจ SMEs เข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายและมากยิ่งขึ้น เพราะธุรกิจ SMEs มีข้อจำกัดสำคัญ คือต้องระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมเท่านั้น แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าธุรกิจ SMEs มีการเติบโตมากขึ้น ไม่ใช่ธุรกิจขนาดเล็กอีกต่อไป จึงต้องการการลงทุนจากบุคคลภายนอก ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนสถาบัน จึงเป็นที่มาของกระดาน LiVE Exchange ซึ่งน่าจะเปิดให้บริการได้ไม่เกินไตรมาส 3/65”
นางสิริวิภา กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ ดำรงวารี ผู้อำนวยการฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์ 2 ก.ล.ต. กล่าวในช่วงเสวนาหัวข้อ “วัตถุประสงค์ของกระดาน 3 (LiVe Exchange) และโอกาสของ Strartups และ SMEs” ว่า คุณสมบัติของบริษัท SMEs และ Startups ที่จะเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนภายใต้ LiVe Exchange มีทั้งหมด 6 ข้อ ได้แก่ 1) จะต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัด 2) ไม่ใช่ Investment Company 3) ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย 4) กรรมการและผู้บริหารสูงสุดในแต่ละสายงานต้องไม่มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ 5) มูลค่าระดมทุน 10-500 ล้านบาทและต้องระดมทุนได้ไม่ต่ากว่า 80% ของมูลค่าที่ตั้งไว้ และ 6) ต้องเข้าจดทะเบียนใน LiVE Exchange
สำหรับการผ่อนปรนกฎเกณฑ์การเสนอขายหุ้นในวงกว้างให้เหมาะสมกับบริษัท SMEs และ Startups คือจะต้องดำเนินการ Information Based ผ่านการจัดทำ SME Filing และ Public Opinion จำนวน 30 วัน รวมถึง Cooling off จำนวน 14 วัน ส่วนงบการเงินต้องจัดทำแบบงบตามรอบรายครึ่งปีและตามเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญ และไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) โดยการเสนอขายหุ้นจะดำเนินการผ่านตัวกลาง
นายณัฐพล สุววรณสิริ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ทาง ตลท.จะให้ความสำคัญกับความพร้อมของกิจการที่จะเข้าจดทะเบียนบน LiVE Exchange ซึ่งสามารถวัดได้จาก
1) ผู้ประกอบการจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน ซึ่งทาง ตลท.ได้จัดการอบรมแบบ e-Learning
2) จะต้องเป็นบริษัท SMEs ขนาดกลางขึ้นไป (M-SME) ตามนิยาม สสว. (ภาคบริการ รายได้ 50 ล้านบาท / ภาคผลิต 100 ล้านบาท)
3) เป็น Startups ที่มีผู้ลงทุนที่มีความชำนาญ (Professional Investor) อย่าง กิจการเงินร่วมลงทุน (VC) หรือ นิติบุคคลร่วมลงทุน (PE) เข้ามาลงทุน
และ 4) ได้รับอนุญาตเสนอขายหุ้นในวงกว้างจากสำนักงาน ก.ล.ต.
นายณัฐพล ยังกล่าวอีกว่า เกณฑ์จากต ลท.ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในกระดาน LiVE Exchange คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในไตรมาส 2/65 และคาดว่า LiVE Exchange น่าจะเปิดให้บริการได้อย่างเร็วในไตรมาส 2/65 โดยจะให้ซื้อขายวันละ 1 รอบ (9.30-11.00น.) ชำระราคาและส่งมอบภายในวันเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่สนใจติดต่อเข้ามาราว 10 กว่ารายแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 65)
Tags: กลต., ณัฐพล สุววรณสิริ, สิริวิภา สุพรรณธเนศ