เจ้าหน้าที่สอบสวนของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า กล่องดำของเครื่องบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.นั้น หยุดทำงานไปราว 4 นาทีก่อนที่เครื่องบินลื่นไถลจากรันเวย์ไปชนกับกำแพงคอนกรีตที่สนามบินนานาชาติมูอัน
ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) เกี่ยวกับกล่องบันทึกข้อมูลการบิน (Flight Data Recorder – FDR) และกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder – CVR) ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเจจูแอร์พบว่า อุปกรณ์ทั้งสองดังกล่าวหยุดทำงานไปประมาณ 4 นาทีก่อนเครื่องบินพุ่งชนกำแพงคอนกรีตของสนามบิน และเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 9.03 น.ของวันที่ 29 ธ.ค.
อุปกรณ์ FDR และ CVR หยุดทำการบันทึกข้อมูลไปตั้งแต่เวลา 8.59 น. ซึ่งทำให้ผู้สืบสวนวิเคราะห์สถานการณ์ได้ยากมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า แม้ข้อมูลจาก FDR และ CVR จะสำคัญสำหรับการสืบสวน แต่ก็ไม่ใช่แหล่งข้อมูลเดียวในการหาหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า “การสืบสวนเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงบันทึกจากการควบคุมการจราจรทางอากาศ, วิดีโอเหตุการณ์ระเบิด และซากเครื่องบินจากจุดเกิดเหตุ”
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ได้ส่งส่วนประกอบของกล่องดำไปยัง NTSB ที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อทำการตรวจสอบยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยผู้สืบสวนจากเกาหลีใต้ที่เดินทางไปยัง NTSB จะกลับถึงเกาหลีใต้ในวันจันทร์ (13 ม.ค.) เพื่อดำเนินการสอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมนี้ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 68)
Tags: กล่องดำ, สนามบินนานาชาติมูอัน, สายการบินเจจูแอร์, เครื่องบิน