หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขยับขึ้นถ้วนหน้า โดยเมื่อเวลา 10.49 น.
- หุ้น BGRIM พุ่ง 6.02% มาอยู่ที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 629.52 ล้านบาท
- หุ้น GPSC บวก 3.57% มาอยู่ที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 543.47 ล้านบาท
- หุ้น EA บวก 3.39% มาอยู่ที่ 61.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 598.41 ล้านบาท
- หุ้น GULF บวก 3.03% มาอยู่ที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 170.20 ล้านบาท
- หุ้น EGCO บวก 2.37% มาอยู่ที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 142.93 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองหุ้นบมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM), บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) และบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า จากการมองไตรมาส 2/64 เป็น High Season ของธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาคครัวเรือนใช้พลังงานไฟฟ้าสูง เพราะเป็นฤดูร้อน และอากาศก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับมี Work from home (WFH) อีกรอบในช่วงโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 3 ด้วย
ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2/64 ก็คาดว่าจะสูงขึ้น YoY เพราะไตรมาส 2/63 เป็นช่วงล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ แต่ไตรมาส 2/64 มีการผลิตตามปกติ
อีกทั้งหลายโรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่ม เช่น BGRIM มี COD โรงไฟฟ้าพลังลม ในไตรมาส 2/64, GPSC มี COD โรงไฟฟ้า VSPP เป็นต้น ขณะที่ต้นทุนก๊าซยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
จึงประเมินว่าปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาส 2/64 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ และคาดการณ์ว่า Core profit ของธุรกิจไฟฟ้าก็จะขยายตัวได้ดีไปด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 64)
Tags: BGRIM, EA, EGCO, GPSC, GULF, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, ดีบีเอส วิคเคอร์ส, หุ้นไทย, โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่, โรงไฟฟ้า