นายกุยโด โครเซตโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิตาลีให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ว่า การที่อิตาลีเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีนเมื่อ 4 ปีก่อนนั้นถือเป็น “การตัดสินใจเฉพาะหน้าที่เลวร้าย เนื่องจากกระตุ้นการส่งออกของอิตาลีไปยังจีนได้เพียงเล็กน้อย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิตาลีลงนามเข้าร่วม BRI ภายใต้รัฐบาลชุดที่แล้ว และกลายเป็นประเทศตะวันตกรายใหญ่เพียงประเทศเดียวที่เข้าร่วมโครงการนี้ ด้านนายโครเซตโตเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหารที่กำลังหาทางแยกตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ โครงการ BRI เป็นแผนการสร้างเส้นทางสายไหมเก่าขึ้นใหม่เพื่อเชื่อมต่อจีนกับเอเชีย ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี ผู้วิจารณ์มองว่าจีนใช้ BRI เป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
“การเข้าร่วมโครงการเส้นทางสายไหม (ใหม่) เป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าที่เลวร้าย” ที่ทำให้จีนส่งออกไปยังอิตาลีเพิ่มเป็นทวีคูณ แต่ไม่ได้ส่งผลอย่างเดียวกันนี้กับการส่งออกของอิตาลีไปยังจีน” นายโครเซตโตให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์คอร์ริเอเร เดลลา เซรา (Corriere della Sera)
“ประเด็นในวันนี้คือ จะถอนตัว (จาก BRI) โดยไม่ทำลายความสัมพันธ์ (กับจีน) ได้อย่างไร เพราะเป็นความจริงที่จีนเป็นคู่แข่ง แต่ก็เป็นคู่ค้าด้วย”
นายโครเซตโตกล่าวเสริม
หลังการประชุมที่ทำเนียบขาวกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (27 ก.ค.) นางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีของอิตาลีกล่าวว่า รัฐบาลของเธอยังคงพิจารณาเรื่อง BRI และประกาศการเดินทางเยือนปักกิ่งในอนาคตอันใกล้นี้
“เราจะตัดสินใจก่อนเดือนธันวาคม” นางเมโลนีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมเสริมว่าประเด็นนี้จำเป็นต้องหารือกับรัฐบาลจีนและภายในรัฐสภาอิตาลี
นางเมโลนีย้ำว่าเป็น “เรื่องย้อนแย้ง” ที่แม้อิตาลีจะเป็นส่วนหนึ่งของ BRI แต่ก็ไม่ใช่ประเทศในกลุ่ม G7 ที่มีปริมาณการค้ากับจีนมากที่สุด และนั่นแสดงให้เห็นว่า เป็นไปได้ที่จะมีความสัมพันธ์อันดีกับจีนโดยไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งในโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66)
Tags: กุยโด โครเซตโต, จีน, ส่งออก, อิตาลี