นายโตโยอากิ นากามูระ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ ในปีหน้า หากการบริโภคยังคงซบเซา พร้อมเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
นายนากามูระ สมาชิกเพียงหนึ่งเดียวที่คัดค้านการตัดสินใจของ BOJ ในการยกเลิกนโยบายดอกเบี้ยติดลบเมื่อเดือนมี.ค. ยังได้กล่าวเตือนถึงสัญญาณการบริโภคที่อ่อนแอ และการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งได้ส่งผลบดบังแนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
“แม้มีการฟื้นตัว แต่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนซบเซาในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตของรายได้หลังหักภาษียังคงค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น”
นายนากามูระ กล่าว
นายนากามูระกล่าวเสริมว่า “ผมไม่มั่นใจว่า การปรับขึ้นค่าจ้างนั้นจะยั่งยืน” เนื่องจากบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางยังไม่ได้ดำเนินการปฏิรูปอย่างเพียงพอเพื่อเพิ่มผลกำไรและปรับเพิ่มค่าจ้างอย่างต่อเนื่อง
ตามการคาดการณ์ล่าสุดที่ทำขึ้นในเดือนเม.ย. คณะกรรมการ BOJ ทั้ง 9 รายคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคพื้นฐานจะแตะ 1.9% ทั้งในปีงบประมาณที่เริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2568 และปีงบประมาณ 2569
นายนากามูระกล่าวในที่ประชุมของผู้นำธุรกิจในเมืองซัปโปโรทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นว่า “ผมมองว่าอัตราเงินเฟ้ออาจไม่ถึง 2% ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568 เป็นต้นไป” หากภาคครัวเรือนควบคุมการใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าอีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 67)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจญี่ปุ่น