กรมอุตุฯ โต้เฟคนิวส์ “พายุลูกใหญ่จ่อถล่มไทยทำน้ำท่วมหนักเหมือนปี 54 สองเท่า” แจง “ซีมารอน” ไม่กระทบไทย

จากกรณีมีข่าวลือในโซเชียลว่า “อีก 5 วันจะเกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดถล่มไต้หวัน และถ้ามวลอากาศเย็นหายไป พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนามและเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคเหนือตอนบนอย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมหนักกว่าปี 54 ถึงสองเท่า” นั้น

กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกรมอุตุฯ โดยจากการติดตามและคาดการณ์ของกรมอุตุฯ พบว่า ขณะนี้มีพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ 1 ลูก เป็นพายุหมุนเขตร้อนมีความรุนแรงอยู่ในระดับพายุโซนร้อน ชื่อ “ซีมารอน (CIMARON)” คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับต่อไป และจะมีการก่อตัวของความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น และจะเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวัน ในขณะที่มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 30 ก.ย. นี้ และแผ่ลงมาต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะแรก ๆ และหลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง

อย่างไรก็ดี พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่ออากาศของประเทศไทยโดยตรง ถึงแม้ว่าความกดอากาศสูงจะอ่อนกำลังลง พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนด้านตะวันออกมากขึ้น จะไม่เคลื่อนลงมาทางประเทศเวียดนาม และทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย หรือไม่พายุนี้ก็อาจจะอ่อนกำลังลงก่อนขึ้นฝั่ง

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงถ่ายฤดูกาลอากาศอาจจะมีความแปรปรวนในบางวัน

ส่วนในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้ายแรงเกิดขึ้น กรมอุตุฯ จะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการต่อไป โดยหากมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ประเทศไทยหรือส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวว่า ศปช. ได้ตรวจสอบข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอยืนยันว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีพายุขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย มีเพียงพายุโซนร้อน “ซีมารอน” ที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและอ่อนกำลังลง ไม่ส่งผลกระทบต่อถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน

สำหรับสถานการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงนี้ เกิดจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม โดยจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะแรกจากนั้นจะลดลง และเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวในประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)

Tags: , , , , , ,