กมธ.มั่นคงฯ ย้ำจุดยืนรักษาผลประโยชน์ชาติ แต่ขอฟังข้อมูลปม MOU 44 ให้รอบด้าน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ไทย-กัมพูชา และบันทึกความเข้าใจ MOU 44 โดยเน้นการรับฟังเป็นหลัก ซึ่งคณะกรรมาธิการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างยาวนาน อีกทั้งเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ มีหลายฝ่ายมองเรื่องนี้แตกต่างกันไป แต่การประชุมวันนี้ จะยังไม่นำไปสู่การตัดสินใจใด ๆ โดยเน้นไปที่ข้อมูลเป็นหลัก

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า เรื่องนี้กรรมาธิการได้ศึกษารายละเอียด ทั้งบันทึกข้อตกลง และรับฟังความเห็นของนักวิชาการ ซึ่งตนเข้าใจในข้อกังวลของฝ่ายต่าง ๆ ที่มองว่าข้อตกลงนี้อาจทำให้ไทยเสียประโยชน์ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีข้อโต้แย้ง ว่าไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้น จึงใช้การประชุมวันนี้รับฟังข้อมูล

“เห็นสอดคล้องกับทุกคนว่า ถึงอย่างไร “เกาะกูด” ก็เป็นของไทย แต่เรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อ เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ด้านพลังงาน ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างไร” นายรังสิมันต์ ระบุ

ส่วนกรณีที่ประชาชนเข้าชื่อ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีผลกระทบแง่บวก หรือแง่ลบอย่างไร เพราะวันนี้จุดยืนของกรรมาธิการ คือการรับฟังข้อมูล แต่ข้อเสนอถึงขั้นยกเลิก MOU หรือไม่นั้น ต้องคุยกันในกรรมาธิการ ซึ่งจะต้องรับฟังและหาข้อมูลให้มากที่สุด โดยต้องไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึก

“ทุกอย่าง ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง ที่ไม่ได้มองเฉพาะเขตแดน แต่มองไปถึงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ที่จะนำไปสู่การจัดสรรผลประโยชน์ ของฝ่ายต่าง ๆ ด้วย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

พร้อมระบุว่า เมื่อได้ข้อมูลแล้ว เชื่อว่าจะได้ประโยชน์ในการทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป และอยู่ในวิสัยที่ สส. จะสามารถตั้งกระทู้ถามในสภาฯ ได้ หรือนำไปหารือกับรัฐบาลได้ รวมถึงการเสนอยุติในประเด็นที่เกี่ยวข้อง

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า มีจุดยืนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ แต่ต้องยึดข้อมูลเป็นสำคัญ และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เรื้อรังมานาน โดยที่ฝ่ายต่าง ๆ มีจุดยืนแตกต่างกัน ซึ่งพวกตนในฐานะ สส. และกรรมาธิการ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและรับฟัง พร้อมขอเวลาอีกสักพัก เพื่อจะใช้กลไกของกรรมาธิการ และสภาฯ ในการแสวงหาข้อมูลข้อเท็จจริง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 67)

Tags: , ,