นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 40/2567 (ครั้งที่ 925) เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 67 มีมติเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ได้แก่ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่าง ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี
โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ) ปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดีตามแนวทางที่ กกพ. ได้วางไว้
นายพูลพัฒน์ กล่าวว่า กกพ. เข้าใจดีถึงภาระต้นทุนในการทำธุรกิจจากการวางหลักทรัพย์เพื่อเป็นการประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าบางประเภทและในบางอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูง เป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ในขณะเดียวกันคำนึงถึงคู่สัญญาคือการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายด้วย เพราะหากเกิดกรณีไม่ชำระค่าไฟฟ้า หรือค้างชำระค่าไฟฟ้าเกินกำหนด หรือละเมิดการใช้ไฟฟ้า ก็จะเป็นความเสี่ยงและเกิดภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเองก็ต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าไปให้ผู้ใช้ก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บเงินค่าไฟในภายหลัง
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย กกพ. จึงมีมติโดยวางกรอบให้สิทธิได้รับการลดวงเงินประกันการใช้ไฟฟ้าตามประวัติการชำระค่าไฟและสถานะหนี้คงค้างค่าไฟเป็นหลัก ซึ่งขอย้ำว่าการวางเงินประกันการชำระค่าไฟฟ้ายังคงมีความจำเป็น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมรับผิดชอบการไม่ชำระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าบางราย ดังนั้น จึงไม่สามารถยกเลิกการวางเงินประกันทั้งหมดได้
ทั้งนี้ กกพ. ได้กำหนดแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี โดยกำหนดวงเงินประกันตามลักษณะการชำระค่าไฟฟ้า ดังนี้
– ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่าง เงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (เดิม) คือ (1) ไม่เกิน 1 เท่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระตามกำหนด ในรอบ 1 ปี
ส่วนเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ปรับปรุง) คือ (1) ไม่เกิน 1 เท่า ของค่าไฟฟ้าเฉลี่ยย้อนหลังในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระตามกำหนด ในรอบ 1 ปี
(2) ไม่เกิน 0.8 เท่า ของค่าไฟฟ้าเฉลี่ยย้อนหลังในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระตามกำหนด ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ กรณีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ผิดนัดชำระถูกงดจ่ายไฟฟ้าไม่ว่ากรณีใด ๆ หรือละเมิดการใช้ไฟฟ้าให้ใช้อัตราการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าตามเงื่อนไขเดิม
– ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่าง เงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (2) ไม่เกิน 1.25 เท่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ผิดนัดชำระ ไม่เกิน 4 งวดในรอบปี
(3) ไม่เกิน 1.50 เท่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ผิดนัดชำระเกิน 4 งวดในรอบปี
(4) ไม่เกิน 2 เท่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ถูกงดจ่ายไฟฟ้า ไม่ว่ากรณีใดๆ หรือละเมิดการใช้ไฟฟ้า
ส่วนเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ปรับปรุง) ยังคงเดิม
สำหรับมติดังกล่าว กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่รอบบิลต้นปี 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ได้มีหนังสือถึง การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เพื่อแจ้งแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ตามมติ กกพ. ดังกล่าว โดย กกพ. ขอให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม รายละเอียดจำนวนผู้ที่ได้รับประโยชน์และจำนวนเงินที่จะได้รับเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี โดยประมาณการจากข้อมูลของการใช้ไฟฟ้า และควรมีการศึกษาข้อมูลว่าในกรณีเกิดหนี้สูญจากการไม่ชำระค่าไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายได้ดำเนินการอย่างไรกับหนี้สูญดังกล่าว และรายงานเสนอ กกพ. ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 67)
Tags: การไฟฟ้า, พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์, สำนักงาน กกพ.